วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2562

9 กิจวัตรวัยรุ่นไทยควรทำแล้วจะประสบความสำเร็จ

9 กิจวัตรวัยรุ่นไทยควรทำแล้วจะประสบความสำเร็จ

                สำหรับผู้ที่จะประสบความสำเร็จ คุณสมบัติที่ดีของผู้จะประสบความสำเร็จนั้น ต้องมีทัศนคติที่ดีต่อเป้าหมายที่ชัดเจน  กิจวัตรประจำวันในการดำรงชีวิตมีแนวโน้มต่อการสร้างแรงบันดาลใจ เพราะการที่คุณจะตื่นขึ้นมาในตอนเช้า และก่อนที่คุณจะให้เวลาสำหรับสิ่งที่สำคัญ คุณควรจัดสรรเวลาบางส่วนให้กับตัวเอง ในการเตรียมความพร้อมเพื่อลุยกับงานที่คุณวางเป้าหมายไว้ เช่น การออกกำลังกาย ทำสมาธิ การเคลื่อนไหว กิจกรรมในครอบครัว  ออกไปเดินเล่นหรือแม้กระทั่งการใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติ เป็นการสร้างแรงบันดาลใจเพื่อเป็นแรงผลักดันให้คุณก้าวต่อไปในแบบฉบับที่เป็นตัวเองที่สุด เรามีวิธีการมาแนะนำ ที่คุณสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยกิจกรรมที่ทำเป็นประจำทุกเช้าของ 10 ผู้จะที่ประสบความสำเร็จ ดังนี้

 1.การตื่นเช้า


         
              การตื่นเช้าอาจเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายคน เพราะคงไม่มีอะไรที่ทำให้เรารู้สึกมีความสุขได้เท่ากับการซุกตัวอยู่ในผ้าห่มอุ่นๆ แล้วล่ะค่ะ แต่หากคุณสามารถเอาชนะตัวเองโดยการตื่นเช้าได้ล่ะก็ คุณจะพบว่ามันมีประโยชน์ต่อชีวิตมากทีเดียว ซึ่งวันนี้เราได้รวบรวมหลากข้อดีของการตื่นเช้าที่หลายคนอาจนึกไม่ถึงมาฝาก แต่จะมีอะไรบ้างนั้น เราลองมาดูพร้อมกันเลย
1.1 มีโอกาสทานอาหารเช้าที่ดีต่อสุขภาพ
1.2 สุขภาพจิตดี
1.3 มีประสิทธิภาพการทำงาน
1.4 มีเวลาออกกำลังกาย
1.5 มีการนอนที่ดีขึ้น
1.6 ได้ฝึกควบคุมตัวเอง
              อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คุณจะเห็นได้ว่า การตื่นเช้ามีประโยชน์มากกว่าที่คิดเสียอีก แม้ว่าการพยายามตื่นเช้าจะเป็นเรื่องยากในตอนแรก แต่หากคุณสามารถทำได้ล่ะก็ สิ่งที่คุณจะได้รับกลับไปก็นับว่าคุ้มค่ามากทีเดียว


2.การนั่งสมาธิ

              การที่จะเริ่มต้นตอนเช้าด้วยการนั่งสมาธิ ทำให้เรามีการเตรียมความพร้อมที่จะเริ่มต้นการดูแลทุกอย่าง เพื่อให้ชีวิตเป็นระเบียบและชัดเจนมากยิ่งขึ้น3.การออกกำลังกาย
ผมเชื่อว่านี่น่าจะเป็นข้อที่หลายๆ คนตั้งเป้าไว้ในทุกๆ ปี (และหลายคนรวมทั้งผมเองก็มักจะทำบ้างไม่ทำบ้าง) เหตุผลที่ข้อนี้ค่อนข้างสำคัญเพราะต่อให้คุณมีไอเดียและความคิดสร้างสรรค์แค่ไหน แต่ถ้าคุณไม่มีแรง ไม่มีสุขภาพที่พร้อม คุณก็คงทำงานได้ยาก แล้วไหนถ้าคุณป่วยขึ้นมา การทำงานในช่วงนั้นก็จะลดประสิทธิภาพลงไปด้วย มันจึงจะดีถ้าเราให้เวลาในทุกๆ วันกับการออกกำลังกายเสียบ้าง (หรืออย่างน้อยก็ทำให้เป็นกิจวัตรประจำสัปดาห์ก็ยังดี) ซึ่งนอกจากเรื่องสุขภาพที่จะดีขึ้นแล้ว การออกกำลังกายยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้คุณผ่อนคลายความเครียดได้อย่างดีอีกต่างหาก

3.เน้นโภชนาการที่ดี



             หากคุณยังไม่เข้าใจถึงความสำคัญของโภชนาการและพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ดี งั้นก็ลองมองไปรอบๆคุณจะเห็นวัฒนธรรมที่หลงใหลการมีสุขภาพดี เช่น บาร์น้ำผลไม้ที่เข้ามาแทนที่ร้านอาหารจานด่วน อาหารปลอดกลูเตน และผู้ที่หันมารับประทานมังสวิรัติหรือเจ เป็นต้น สิ่งที่คุณรับประทานเข้าไปในร่างกายล้วนมีผลต่อระดับการนับถือตนเอง แม้กระทั่งการตัดบางสิ่งออกไปเช่นน้ำตาลหรืออาหารแปรรูปก็สามารถพัฒนาสมาธิและเพิ่มระดับพลังงานในสมองให้เพิ่มขึ้นได้

4.ไม่สนใจโทรศัพท์มากเกินไป



          การเลือกที่จะไม่สนใจในโทรศัพท์มากเกินไป ด้วยการปิดการแจ้งเตือนในโทรศัพท์ เพราะเขาเชื่อว่า เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นการเพิ่มความเครียดให้กับเขาในตอนทำงานหรือกิจกรรม เราควรเลือกสิ่งแรกในตอนเช้าด้วยการใช้เวลาห้านาทีแรกที่ตื่นขึ้นมากับการให้เวลากับตัวเอง ด้วยการอยู่กับความคิดของตัวเองเพื่อพร้อมที่จะรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นตามมา ในการทำงานต่อไป

5.วางแผนก่อนเริ่มงานในแต่ละวัน

         
             นี่น่าจะเป็นนิสัยที่หนังสือแนะนำการพัฒนาตัวเองพูดถึงบ่อยที่สุดอย่างหนึ่ง (และเป็นเคล็ดที่ผมแนะนำให้กับหลายๆ คน) ทั้งนี้เพราะการวางแผนต่างๆ ในช่วงก่อนเวลาเริ่มงานจะทำให้คุณเห็นภาพรวมของงานที่จะต้องทำ ซึ่งจะนำไปสู่การจัดระบบความคิดและวางแผนการใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง ลองหาเวลาก่อนทำงานสัก 10-15 นาทีไล่ดูว่าวันนี้คุณจะต้องทำอะไรบ้าง แล้วค่อยๆ คิดวางแผนว่าคุณจะจัดการวันนี้อย่างไรให้เวิร์คที่สุด

6.โฟกัสกับงานที่สำคัญที่สุด



           สิ่งที่ต่อเนื่องจากข้อที่แล้วคือคุณควรสร้างนิสัยที่จะให้ความสำคัญกับงานที่สำคัญก่อนเป็นอย่างแรก หรือพูดง่ายๆ คือคุณต้องรู้จักการแยกแยะและวิเคราะห์ว่างานไหนสำคัญไม่
สำคัญ งานไหนควรทำงานก่อนหลัง ไม่ใช่ตะบี้ตะบันทำมันทุกอย่างหรือทำงานหลายๆ อย่างไปพร้อมกัน (ซึ่งนั่นมักจะทำให้การทำงานไม่เวิร์คเลย

7.ทำงานมากกว่าปรกติ

          แม้ว่าการทำงานอาจจะเป็นเรื่องน่าเบื่อและหลายๆ คนอยากรีบกลับบ้าน แต่การลองทำงานที่มากขึ้นกว่าเดิมในแต่ละวัน เช่นโทรหาลูกค้ามากกว่าปรกติ ลองทำงานเพิ่มอีกสักนิดก็เป็นการฝึกให้ตัวคุณได้ทดสอบกับสภาวะใหม่ๆ ซึ่งจะกลายเป็นการเพิ่มศักยภาพให้กับคุณในเวลาต่อมา ตัวอย่างง่ายๆ ที่ผมมักจะยกคือไม่มีใครทำงานถึกได้แต่เกิด แต่พวกเขาค่อยๆ ทำ เจอการทดสอบอยู่เสมอๆ จนทำให้พวกเขาแข็งแกร่งกว่าเดิม ทำงานได้มากกว่าเดิม และแน่นอนว่าถ้าคุณยังทำงานแบบเดิมๆ ด้วยภาระงานเท่าๆ เดิม คุณก็จะอยู่ในภาวะแบบเดิมๆ ต่อไปนั่นแหละฮะ


8.เรียนรู้/พัฒนาทักษะในทุกๆ วัน

         การที่คุณจะเก่งขึ้นกว่าเดิม มันก็จำเป็นที่คุณจะต้องมีทักษะหรือความรู้บางอย่างที่ต่างไปจากทุกวันนี้ ฉะนั้นแล้วคุณควรหาให้เจอว่าอะไรที่คุณยังขาด อะไรที่คุณต้องการ แล้วหาวิธีที่จะฝึกฝนและเรียนรู้มันในทุกๆ วัน ทำให้มันเป็นกิจวัตรประจำวันให้ได้ อย่างตัวผมเองนั้น ผมก็มี Commitment กับตัวเองว่าจะต้องเขียนบล็อกและอ่านหนังสือในทุกๆ วัน เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนและเติมความรู้ใหม่ๆ ให้ตัวเองอยู่เรื่อยๆ ถ้าใครอยากเป็นนักพูด ผมก็จะแนะนำให้ฝึก “เล่าเรื่อง” ทุกวันหน้ากระจก และนี่ยังรวมไปถึงทักษะการทำงานอื่นๆ อีกมากมายที่เราสามารถหยิบมาพัฒนาได้อยู่เรื่อยๆ นั่นเอง


9.ผ่อนคลาย


            การผ่อนคลายมีหลากหลายวิธี อย่างเช่นพาสุนัขไปเดินเล่น  ไปเตะบอลกับเพื่อนๆ หรือ
เล่นเกมที่ทำให้เราเล่นแล้วมีความสุข และไม่คิดถึงเรื่องที่ทำให้เราเคลียด และนี้เป็น10วีธีที่จะช่วยคุณประสบความสำเร็จในชีวิต

Previous Post
Next Post
Related Posts

0 ความคิดเห็น: