วันจันทร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2562

พัฒนาการของวัยรุ่น


พัฒนาการของวัยรุ่น        
           วัยรุ่นเป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลายด้าน  ทำให้ต้องมีการปรับตัวหลายด้านพร้อมๆกัน  จึงเป็นวัยที่จะเกิดปัญหาได้มาก  การปรับตัวได้สำเร็จจะช่วยให้วัยรุ่นพัฒนาตนเองเกิดบุคลิกภาพที่ดี  ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญของการดำเนินชีวิตต่อไป  การเรียนรู้พัฒนาการวัยรุ่นจึงมีประโยชน์ทั้งต่อการส่งเสริมให้วัยรุ่นเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีทั้งทางร่างกายจิตใจสังคม  และช่วยป้องกันปัญหาต่างๆในวัยรุ่น  เช่น ปัญหาทางเพศ  หรือปัญหาการใช้สารเสพติด

พัฒนาการของวัยรุ่น

           วัยรุ่น จะเกิดขึ้นเมื่อเด็กย่างอายุประมาณ  12-13 ปี  เพศหญิงจะเข้าสู่วัยรุ่นเร็วกว่าเพศชายประมาณ 2 ปี และจะเกิดการพัฒนาไปจนถึงอายุประมาณ  18 ปี จึงจะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่  โดยจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในพัฒนาการด้านต่างๆ  ดังนี้
   1.พัฒนาการทางร่างกาย ( Physical Development ) ประกอบด้วยการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายทั่วไป  และการเปลี่ยนแปลงทางเพศ   เนื่องจากวัยนี้ มีการสร้างและหลั่งฮอร์โมนเพศ(sex  hormones)  และฮอร์โมนของการเจริญเติบโต(growth hormone)อย่างมากและรวดเร็ว 
    การเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย (physical  changes)   ร่างกายจะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว แขนขาจะยาวขึ้นก่อนจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอื่นประมาณ 2 ปี เพศหญิงจะไขมันมากกว่าชายที่มีกล้ามเนื้อมากกว่า  ทำให้เพศชายแข็งแรงกว่า
    การเปลี่ยนแปลงทางเพศ(sexual  changes)  สิ่งที่เห็นได้ชัดเจน  คือวัยรุ่นชายจะเป็นหนุ่มขึ้น  นมขึ้นพาน(หัวนมโตขึ้นเล็กน้อย  กดเจ็บ)  เสียงแตก  หนวดเคราขึ้น  และเริ่มมีฝันเปียก ( nocturnal ejaculation - การหลั่งน้ำอสุจิในขณะหลับและฝันเกี่ยวกับเรื่องทางเพศ)  การเกิดฝันเปียกครั้งแรกเป็นสัญญานของการเข้าสู่วัยรุ่นของเพศชาย  ส่วนวัยรุ่นหญิงจะเป็นสาวขึ้น  คือ เต้านมมีขนาดโตขึ้น  ไขมันที่เพิ่มขึ้นจะทำให้รูปร่างมีทรวดทรง  สะโพกผายออก  และเริ่มมีประจำเดือนครั้งแรก ( menarche)  การมีประจำเดือนครั้งแรก เป็นสัญญานบอกการเข้าสู่วัยรุ่นในหญิง
   ทั้งสองเพศจะมีการเปลี่ยนแปลงของอวัยวะเพศ  ซึ่งจะมีขนาดโตขึ้น และเปลี่ยนเป็นแบบผู้ใหญ่  มีขนขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ  มีกลิ่นตัว  มีสิวขึ้น 
   2. พัฒนาการทางจิตใจ  (Psychological Development)
สติปัญญา(Intellectual Development)  วัยนี้สติปัญญาจะพัฒนาสูงขึ้น  จนมีความคิดเป็นแบบรูปธรรม (Jean Piaget  ใช้คำอธิบายว่า  Formal Operation  ซึ่งมีความหมายถึงความสามารถเรียนรู้  เข้าใจเหตุการณ์ต่างๆ  ได้ลึกซึ้งขึ้นแบบ abstract thinking)  มีความสามารถในการคิด  วิเคราะห์  และสังเคราะห์  สิ่งต่างๆได้มากขึ้นตามลำดับจนเมื่อพ้นวัยรุ่นแล้ว  จะมีความสามารถทางสติปัญญาได้เหมือนผู้ใหญ่  แต่ในช่วงระหว่างวัยรุ่นนี้  ยังอาจขาดความยั้งคิด  มีความหุนหันพลันแล่น  ขาดการไตร่ตรองให้รอบคอบ
ความคิดเกี่ยวกับตนเอง (Self Awareness)  วัยนี้จะเริ่มมีความสามารถในการรับรู้ตนเอง ด้านต่างๆ   ดังนี้
เอกลักษณ์ (identity) วัยรุ่นจะเริ่มแสดงออกถึงสิ่งตนเองชอบ  สิ่งที่ตนเองถนัด  ซึ่งจะแสดงถึงความเป็นตัวตนของเขาที่โดดเด่น  ได้แก่  วิชาที่เขาชอบเรียน  กีฬาที่ชอบเล่น  งานอดิเรก  การใช้เวลาว่างให้เกิดความเพลิดเพลิน   กลุ่มเพื่อนที่ชอบและสนิทสนมด้วย  โดยเขาจะเลือกคบคนที่มีส่วนคล้ายคลึงกัน  หรือเข้ากันได้   และจะเกิดการเรียนรู้และถ่ายทอดแบบอย่างจากกลุ่มเพื่อนนี้เอง  ทั้งแนวคิด  ค่านิยม  ระบบจริยธรรม  การแสดงออกและการแก้ปัญหาในชีวิต  จนสิ่งเหล่านี้กลายเป็นเอกลักษณ์ของตน  และกลายเป็นบุคลิกภาพนั่นเอง   สิ่งที่แสดงถึงเอกลักษณ์ตนเองยังมีอีกหลายด้าน  ได้แก่  เอกลักษณ์ทางเพศ(sexual  identity  and sexual orientation)  แฟชั่น  ดารา  นักร้อง  การแต่งกาย    ทางความเชื่อในศาสนา  อาชีพ  คติประจำใจ  เป้าหมายในการดำเนินชีวิต   ( Erik Erikson  อธิบายว่าวัยรุ่นจะเกิดเอกลักษณ์ของตนในวัยนี้  ถ้าไม่เกิดจะมีความสับสนในตนเอง Identity  VS  Role confusion )
ภาพลักษณ์ของตนเอง (self  image)  คือการมองภาพของตนเอง  ในด้านต่างๆ  ได้แก่   หน้าตา  รูปร่าง  ความสวยความหล่อ  ความพิการ  ข้อดีข้อด้อยทางร่างกายของตนเอง  วัยรุ่นจะสนใจหรือ  ให้เวลาเกี่ยวกับรูปร่าง  ผิวพรรณมากกว่าวัยอื่นๆ  ถ้าตัวมีข้อด้อยกว่าคนอื่นก็จะเกิดความอับอาย  
การได้รับการยอมรับจากผู้อื่น (acceptance)  วัยนี้ต้องการการยอมรับจากกลุ่มเพื่อนอย่างมาก  การได้รับการยอมรับจะช่วยให้เกิดความรู้สึกมั่นคง  ปลอดภัย  เห็นคุณค่าของตนเอง  มั่นใจตนเอง  วัยนี้จึงมักอยากเด่นอยากดัง อยากให้มีคนรู้จักมากๆ     
ความภาคภูมิใจตนเอง (self esteem) เกิดจากการที่ตนเองเป็นที่ยอมรับของเพื่อนและคนอื่นๆได้  รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า  เป็นคนดีและมีประโยชน์แก่ผู้อื่นได้  ทำอะไรได้สำเร็จ
ความเป็นตัวของตัวเอง  (independent)  วัยนี้จะรักอิสระ  เสรีภาพ ไม่ค่อยชอบอยู่ในกฎเกณฑ์กติกาใดๆ  ชอบคิดเอง  ทำเอง  พึ่งตัวเอง  เชื่อความคิดตนเอง   มีปฏิกิริยาตอบโต้ผู้ใหญ่ที่บีบบังคับสูง    ความอยากรู้อยากเห็นอยากลองจะมีสูงสุดในวัยนี้  ทำให้อาจเกิดพฤติกรรมเสี่ยงได้ง่ายถ้าวัยรุ่นขาดการยั้งคิดที่ดี  การได้ทำอะไรด้วยตนเอง  และทำได้สำเร็จจะช่วยให้วัยรุ่นมีความมั่นใจในตนเอง (self  confidence)
การควบคุมตนเอง (self control) วัยนี้จะเรียนรู้ที่จะควบคุมความคิด  การรู้จักยั้งคิด การคิดให้เป็นระบบ  เพื่อให้สามารถใช้ความคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ  และ อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ 
อารมณ์ (mood)   อารมณ์จะปั่นป่วน  เปลี่ยนแปลงง่าย  หงุดหงิดง่าย  เครียดง่าย  โกรธง่าย   อาจเกิดอารมณ์ซึมเศร้าโดยไม่มีสาเหตุได้ง่าย  อารมณ์ที่ไม่ดีเหล่านี้อาจทำให้เกิดพฤติกรรมเกเร  ก้าวร้าว   มีผลต่อการเรียนและการดำเนินชีวิต  ในวัยรุ่นตอนต้น  การควบคุมอารมณ์ยังไม่ค่อยดีนัก  บางครั้งยังทำอะไรตามอารมณ์ตัวเองอยู่บ้าง  แต่จะค่อยๆดีขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น  อารมณ์เพศวัยนี้จะมีมาก  ทำให้มีความสนใจเรื่องทางเพศ  หรือมีพฤติกรรมทางเพศ  เช่น  การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง   ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติในวัยนี้  แต่พฤติกรรมบางอย่างอาจเป็นปัญหา  เช่น  เบี่ยงเบนทางเพศ กามวิปริต หรือการมีเพศสัมพันธ์ในวัยรุ่น
จริยธรรม (moral development) วัยนี้จะมีความคิดเชิงอุดมคติสูง(idealism)  เพราะเขาจะแยกแยะความผิดชอบชั่วดีได้แล้ว  มีระบบมโนธรรมของตนเอง   ต้องการให้เกิดความถูกต้อง  ความชอบธรรมในสังคม  ชอบช่วยเหลือผู้อื่น   ต้องการเป็นคนดี  เป็นที่ชื่นชอบของคนอื่น    และจะรู้สึกอึดอัดคับข้องใจกับความไม่ถูกต้องในสังคม  หรือในบ้าน  แม้แต่พ่อแม่ของตนเองเขาก็เริ่มรู้สึกว่าไม่ได้ดีสมบูรณ์แบบเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้ว  บางครั้งเขาจะแสดงออก  วิพากษ์วิจารณ์พ่อแม่หรือ ครูอาจารย์ตรงๆอย่างรุนแรง  การต่อต้าน ประท้วงจึงเกิดได้บ่อยในวัยนี้เมื่อวัยรุ่นเห็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง  หรือมีการเอาเปรียบ เบียดเบียน  ความไม่เสมอภาคกัน   ในวัยรุ่นตอนต้นการควบคุมตนเองอาจยังไม่ดีนัก  แต่เมื่อพ้นวัยรุ่นนี้ไป  การควบคุมตนเองจะดีขึ้น  จนเป็นระบบจริยธรรมที่สมบูรณ์เหมือนผู้ใหญ่
   3.พัฒนาการทางสังคม (Social Development)
วัยนี้จะเริ่มห่างจากทางบ้าน  ไม่ค่อยสนิทสนมคลุกคลีกับพ่อแม่พี่น้องเหมือนเดิม  แต่จะสนใจเพื่อนมากกว่า  จะใช้เวลากับเพื่อนนานๆ     มีกิจกรรมนอกบ้านมาก   ไม่อยากไปไหนกับทางบ้าน   เริ่มมีความสนใจเพศตรงข้าม  สนใจสังคมสิ่งแวดล้อม  ปรับตัวเองให้เข้ากับกฎเกณฑ์กติกาของกลุ่ม  ของสังคมได้ดีขึ้น   มีความสามารถในทักษะสังคม  การสื่อสารเจรจา  การแก้ปัญหา  การประนีประนอม  การยืดหยุ่นโอนอ่อนผ่อนตามกัน  และการทำงานร่วมกับผู้อื่น  พัฒนาการทางสังคมที่ดีจะเป็นพื้นฐานมนุษยสัมพันธ์ที่ดี  และบุคลิกภาพที่ดี  การเรียนรู้สังคมจะช่วยให้ตนเองหาแนวทางการดำเนินชีวิตที่เหมาะกับตนเอง  เลือกวิชาชีพที่เหมาะกับตน  และมีสังคมสิ่งแวดล้อมที่ดีต่อตนเองในอนาคตต่อไป
  เป้าหมายของการพัฒนาวัยรุ่น
  1.   ร่างกายที่แข็งแรง  ปราศจากความบกพร่องทางกาย  มีความสมบูรณ์  มีภูมิต้านทานโรคและปราศจากภาวะเสี่ยงต่อปัญหาทางกายต่างๆ
  2.   เอกลักษณ์แห่งตนเองดี
·       บุคลิกภาพดี  มีทักษะส่วนตัว  และทักษะสังคมดี
·       เอกลักษณ์ทางเพศเหมาะสม
·       การเรียนและอาชีพ ได้ตามศักยภาพของตน  ตามความชอบความถนัด และความเป็นไปได้  ทำให้มีความพอใจต่อตนเอง
·       การดำเนินชีวิต  สอดคล้องกับความชอบความถนัด  มีการผ่อนคลาย  กีฬา  งานอดิเรก  มีความสุขได้โดยไม่เบียดเบียนคนอื่น  มีการช่วยเหลือคนอื่นและสิ่งแวดล้อม
·       มีมโนธรรมดี  เป็นคนดี
  3.   มีการบริหารตนเองได้ดี  สามารถบริหารจัดการตนเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาผู้อื่น 
  4.   มีความรับผิดชอบ   มีความรับผิดชอบทั้งต่อตนเอง  ต่อผู้อื่น  ต่อประเทศชาติ และต่อสิ่งแวดล้อมได้ดี
  5.   มีมนุษยสัมพันธ์กับคนอื่นได้ดี

ปัญหาพฤติกรรมในวัยรุ่น

            ปัญหาที่พบได้บ่อยในวัยรุ่น  มีดังนี้
ปัญหาความสัมพันธ์กับพ่อแม่  วัยนี้จะแสดงพฤติกรรมที่แสดงความเป็นตัวของตัวเองค่อนข้างมาก การพูดจาไม่ค่อยเรียบร้อย  อารมณ์แปรปรวนเปลี่ยนแปลงง่าย  ความรับผิดชอบขึ้นๆลงๆ  เอาแต่ใจตัวเอง  ทำให้พ่อแม่  ผู้ปกครอง  หรือครูอาจารย์หงุดหงิดไม่พอใจได้มากๆ  ถ้าใช้วิธีการจัดการไม่ถูกต้อง  เช่น  ใช้วิธีดุด่าว่ากล่าว  ตำหนิ  หรือลงโทษรุนแรง  จะเกิดปฏิกิริยาต่อต้าน  เป็นอารมณ์ต่อกัน  ไม่ได้ช่วยเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมวัยรุ่น
    วิธีการจัดการกับปัญหาพฤติกรรมเหล่านี้  เริ่มต้นจากการทำความเข้าใจความต้องการของวัยรุ่น  มีการตอบสนองโดยประนีประนอมยืดหยุ่น  แต่ก็ยังคงมีขอบเขตพอสมควร  พยายามจูงใจให้ร่วมมือมากกว่าการบังคับกันตรงๆหรือรุนแรง  สร้างความสัมพันธ์ที่ดีไว้ก่อน  อย่าหงุดหงิดกับพฤติกรรมเล็กๆน้อยๆ
   ปัญหาการใช้สารเสพติด (substance use disorders) ตามธรรมชาติของวัยรุ่นจะมีความอยากรู้อยากเห็นอยากลองมาก  ถ้าขาดการยับยั้งชั่งใจด้วย  การที่อยู่ในกลุ่มที่ใช้สารเสพติด  หรือเพื่อนใช้สารเสพติด  จะมีการชักชวนให้ใช้ร่วมกัน  บางคนไม่กล้าปฏิเสธเพื่อน  บางคนใช้เพื่อให้เหมือนเพื่อนๆ  เมื่อลองแล้วเกิดความพอใจก็จะติดได้ง่าย 
   ปัญหาทางเพศ(Sexual Problems)
พฤติกรรมรักร่วมเพศ (homosexualism) เป็นพฤติกรรมที่จะทำให้เกิดปํญหาตามมาได้มาก  คนที่เป็นรักร่วมเพศมักจะเจอปัญหาในการดำเนินชีวิตได้มากกว่าคนทั่วไป  ในบางสังคมมีการต่อต้านพฤติกรรมรักร่วมเพศ  มีการรังเกียจ  ล้อเลียน  ไม่ยอมรับ  บางประเทศมีกฎหมายลงโทษการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันเอง
รักร่วมเพศ  คือพฤติกรรมที่พึงพอใจทางเพศกับเพศเดียวกัน  อาจมีการแสดงออกภายนอกให้เห็นชัดเจนหรือไม่ก็ได้ 
การรักษาผู้ที่เป็นรักร่วมเพศ  มักไม่ได้ผล  เนื่องจากผู้ที่เป็นรักร่วมเพศมักจะพอใจในลักษณะแบบนี้อยู่แล้ว  การช่วยเหลือทำได้โดยการให้คำปรึกษาผู้ที่เป็นพ่อแม่  และผู้ป่วย  เพื่อให้ปรับตัวได้   ไม่รังเกียจลูกที่เป็นแบบนี้  และผู้ป่วยแสดงออกเหมาะสม  ไม่มากเกินไปจนมีการรังเกียจต่อต้านจากคนใกล้ชิด
การป้องกันภาวะรักร่วมเพศ   ทำได้โดยการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่เพศเดียวกับเด็ก  เพื่อให้มีการถ่ายทอดแบบอย่างทางเพศจากพ่อหรือแม่เพศเดียวกับเด็ก
  การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง (masturbation) ในวัยรุ่นการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองเป็นพฤติกรรมปกติ  ไม่มีอันตราย  ไม่มีผลเสียต่อร่างกายหรือจิตใจ  การทำไม่ควรหมกมุ่นมากจนเป็นปัญหาต่อการใช้เวลาที่ควรทำ  หรือทำให้ขาดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์อื่นๆ
  การมีเพศสัมพันธ์ในวัยรุ่น (sexual relationship)  มักเกิดจากวัยรุ่นที่ขาดการยับยั้งชั่งใจ  หรือมีปัญหาทางอารมณ์  และใช้เพศสัมพันธ์เป็นการทดแทน  เพศสัมพันธ์ในวัยรุ่นมักไม่ได้ยั้งคิดให้รอบคอบ  ขาดการไตร่ตรอง  ทำตามอารมณ์เพศ  หรืออยู่ภายใต้ฤทธิ์ของสารเสพติด  ทำให้เกิดปัญหาการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์    การตั้งครรภ์   การทำแท้ง  การเลี้ยงลูกที่ไม่ถูกต้อง  ปัญหาครอบครัว  และกลายเป็นปัญหาสังคมในที่สุด
   ปัญหาบุคลิกภาพ (personality problems)  วัยรุ่นจะเป็นวัยที่มีพัฒนาการของบุคลิกภาพอย่างชัดเจน  ทั้งนิสัยใจคอ  การคิด  การกระทำ  จะเป็นรูปแบบที่สม่ำเสมอ  จนสามารถคาดการณ์ได้ว่าในเหตุการณ์แบบนี้  เขาจะแสดงออกอย่างไร  ถ้าการเรียนรู้ที่ผ่านมาดี  วัยรุ่นจะมีบุคลิกภาพดีด้วย  แต่ในทางตรงข้าม  ถ้ามีปัญหาในชีวิต  หรือเรียนรู้แบบผิดๆ  จะกลายเป็นบุคลิกภาพที่เป็นปัญหา  ปรับตัวเข้ากับคนอื่นได้น้อย  เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง  และจะติดตัวไปตลอดชีวิต   ถ้าเป็นปัญหามากๆเรียกว่าบุคลิกภาพผิดปกติ (personality disorders)
  ความประพฤติผิดปกติ  (conduct disorder)  คือ โรคที่มีปัญหาพฤติกรรมกลุ่มที่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน  โดยตนเองพอใจ  ได้แก่  การละเมิดสิทธิผู้อื่น  การขโมย  ฉ้อโกง ตีชิงวิ่งราว   ทำร้ายผู้อื่น  ทำลายข้าวของ  เกเร  หรือละเมิดกฎเกณฑ์ของหมู่คณะหรือสังคม   การหนีเรียน  ไม่กลับบ้าน  หนีเที่ยว  โกหก  หลอกลวง  ล่วงเกินทางเพศ  การใช้สารเสพติด  อาการดังกล่าวนี้มักจะเกิดขึ้นต่อเนื่องมานานพอสมควร  สัมพันธ์กันปัญหาในครอบครัว   การเลี้ยงดู  ปัญหาอารมณ์ 
            การรักษาควรรีบทำทันที  เพราะการปล่อยไว้นาน  จะยิ่งเรื้อรังรักษายาก  และกลายเป็นบุคลิกภาพแบบอันธพาล (antisocial personality disorder)

การป้องกันปัญหาวัยรุ่น

1.   การเลี้ยงดูอย่างถูกต้อง  ให้ความรักความอบอุ่น
2.   การฝึกให้รู้จักระเบียบวินัย  การควบคุมตัวเอง
3.   การฝึกทักษะชีวิต  ให้แก้ไขปัญหาได้ถูกต้อง  มีทักษะในการปฏิเสธสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
4.   การสอนให้เด็กรู้จักคบเพื่อน  ทักษะสังคมดี
5.   การฝึกให้เด็กมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง

วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2562

12 สถานที่ที่คุณต้องไปให้ถึงของบุรีรัมย์


 ที่เที่ยวบุรีรัมย์ หนึ่งในจังหวัดท่องเที่ยวภาคอีสานที่น่าสนใจ หลากหลายด้วยสถานที่ท่องเที่ยว เอาใจนักท่องเที่ยวที่อยากเดินทางมาเที่ยวบุรีรัมย์ ให้ได้ไปเช็กอินกันถึงที่ 

         บุรีรัมย์ นับเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวภาคอีสานที่ในช่วงระยะหลังมานี้ฮอตในหมู่นักท่องเที่ยวแบบสุด ๆ ด้วยเพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไล่เรียงมาตั้งแต่ที่เที่ยวมรดกวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม ตลอดจนที่เที่ยวยุคใหม่ ที่ผสมกลมกลืนได้อย่างลงตัว เหล่านี้เป็นเสน่ห์ดึงดูดให้บุรีรัมย์กลายเป็นอีกหนึ่งจังหวัดน่าเที่ยวไปโดยปริยาย


1. ปราสาทหินเมืองต่ำ

ที่เที่ยวบุรีรัมย์

         ตั้งอยู่ที่บ้านโคกเมือง ตำบลจรเข้มาก อำเภอประโคนชัย เป็นเมืองโบราณร่วมสมัยกับปราสาทเขาหินพนมรุ้ง นับเป็นปราสาทหินของโบราณที่มีขนาดใหญ่มากอีกแห่งหนึ่งของจังหวัด ภายในประกอบด้วยอาคารสถาปัตยกรรมต่าง ๆ เช่น กำแพงแก้ว, ลานปราสาทหินเมืองต่ำและสระน้ำ, ระเบียงคดและซุ้มประตู, กลุ่มปราสาทอิฐ, บรรณาลัย และบาราย เป็นต้น ปราสาทเมืองต่ำ อยู่ห่างจากปราสาทเขาหินพนมรุ้งเพียง 8 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมโบราณสถานทั้ง 2 แห่งได้อย่างสะดวก

2. วัดเกาะแก้วธุดงคสถาน (วัดระหาน)

ที่เที่ยวบุรีรัมย์

         ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านด่าน อำเภอบ้านด่าน ภายในวัดประดิษฐานพระมหาธาตุรัตนเจดีย์ สร้างขึ้นจากดำริของหลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ พระเกจิชื่อดัง เพื่อเป็นปูชนียสถานระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และใช้เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่หลวงปู่จันทร์แรม อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา ภายในวัดสงบร่มรื่น เหมาะสำหรับเป็นที่ที่พุทธศาสนิกชนเดินทางมาทำบุญและปฏิบัติธรรม รวมถึงยังจะได้เห็นฝูงนกยูงจำนวนมากภายในวัดอีกด้วย (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ วัดระหาน(เกาะแก้วธุดงคสถาน) จ.บุรีรัมย์)

3. วัดเขาพระอังคาร

ที่เที่ยวบุรีรัมย์

         ตั้งอยู่บนยอดเขาอังคาร ในอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยเดียวกับปราสาทหินพนมรุ้ง เป็นวัดที่มีความสวยงาม ใหญ่โตแห่งหนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์ มีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย เช่น โบสถ์ 3 ยอด ซึ่งภายในโบสถ์มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง และเรื่องราวชาดกเป็นภาษาอังกฤษ, ใบเสมาพันปี, พระพิฆเนศงาเดียว, พระพุทธ 109 องค์, พระตำหนักศักดิ์สิทธิ์ และเทวรูปเจ้าเมืองขอม เป็นต้น 

4. พระเจ้าใหญ่ วัดหงษ์


         พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบุรีรัมย์และจังหวัดใกล้เคียง ประดิษฐานอยู่ที่วัดหงษ์ ตำบลมะเฟือง อำเภอพุทไธสง องค์พระพุทธรูปประทับขัดสมาธิ ปางมารวิชัย ก่อด้วยอิฐถือปูน ศิลปะลาว สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย หรือต้นรัตนโกสินทร์ ราวพุทธศตวรรษที่ 24-25 เมื่อถึงวันเพ็ญเดือนสาม (กุมภาพันธ์-มีนาคม) ชาวบ้านจะจัดงานเทศกาลเพื่อเฉลิมฉลอง 5 วัน 5 คืน เป็นประจำทุกปีแด่พระเจ้าใหญ่



5. วนอุทยานเขากระโดง

ที่เที่ยวบุรีรัมย์
ที่เที่ยวบุรีรัมย์
                 ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยว ศึกษาประวัติศาสตร์ ธรณีวิทยาและชีววิทยาที่สำคัญของจังหวัดบุรีรัมย์  เพราะเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟที่ยังคงปรากฏร่องรอยปากปล่องให้เห็นชัดเจน ภายในวนอุทยานเขากระโดงมีสถานที่ที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น "พระสุภัทรบพิตร"  พระพุทธรูปองค์ใหญ่คู่เมืองบุรีรัมย์ และ "สะพานพิสูจน์ศรัทธาสาธุชน" (บันไดนาคราช) ซึ่งเป็นทางเดินขึ้นไปสักการบูชาพระสุภัทรบพิตร ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขากระโดง จำนวน 297 ขั้น 

         

6. เขื่อนลำนางรอง 
                                                                   

         ตั้งอยู่ที่ตำบลนางรอง อำเภอโนนดินแดง แหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนของชาวจังหวัดบุรีรัมย์ มีลักษณะเป็นเขื่อนดินที่มีถนนลาดยางบนสันเขื่อน ทุกปีในช่วงหน้าร้อน เขื่อนลำนางรองจะเป็นที่เที่ยวสุดฮิตคลายร้อนของชาวบุรีรัมย์ กิจกรรมส่วนใหญ่มักหนีไม่พ้นการเล่นน้ำ บ้างก็พาครอบครัวมาปั่นจักรยานชิล ๆ หรือบ้างก็มาเดินเล่นมองวิถีชีวิตยามเย็นไปเรื่อย ๆ มองไปมองมาก็เพลินอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว 

7. จุดชมวิวผาแดง

         ตั้งอยู่ที่อำเภอโนนดินแดง เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวช่วงหน้าหนาวสุดฟิน ที่ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสอากาศและธรรมชาติแสนสวย พร้อมทะเลหมอกที่ปกคลุมผืนป่าดงใหญ่-เทือกเขาบรรทัด เมื่อมองลงมาจะเห็นตัวหมู่บ้านใหม่ไทยถาวร โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติตาพระยา ไปทางอำเภอโนนดินแดง ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร ถึงจุดตรวจตำรวจชายแดน เลี้ยวขวาเป็นทางลูกรังเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร แนะนำว่าให้ไปเที่ยวช่วงหน้าหนาว บอกเลยว่าคุณจะต้องประทับใจสุด ๆ 

8. ศูนย์วัฒนธรรมอีสานใต้ 

         ตั้งอยู่ด้านหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ประกอบด้วยอาคาร 2 หลัง คือ หอวัฒนธรรมสองชั้น และอาคารหอประชุมภายในมีการจัดแสดงนิทรรศการต่าง ๆ เช่น นิทรรศการภูมิศาสตร์แสดงสภาพภูมิศาสตร์อีสานใต้และจังหวัดบุรีรัมย์, นิทรรศการแหล่งที่ตั้งชุมชนโบราณของจังหวัดบุรีรัมย์, นิทรรศการโบราณวัตถุสมัยต่าง ๆ, นิทรรศการประวัติศาสตร์จังหวัดสุรินทร์, นิทรรศการช้างกับส่วย, นิทรรศการศาสนาและความเชื่อ และนิทรรศการผ้าและวิถีชีวิต เป็นต้น (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 045 611 211 หรือ เฟซบุ๊ก ศูนย์วัฒนธรรมอีสานใต้จังหวัดบุรีรัมย์)

9. หาดปราสาททอง



         ตั้งอยู่ที่อำเภอหนองกี่ เพิ่งเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวไปเมื่อช่วงเดือนมกราคม 2559 เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวพักผ่อนของชาวจังหวัดบุรีรัมย์ บรรยากาศร่มรื่นด้วยแนวต้นไม้ริมหาด รวมถึงยังมีทางเดินริมหาดเอาไว้ให้คุณนั่งเล่นเดินเล่นแบบชิล ๆ ส่วนใหญ่แล้วที่นี่จะคึกคักในช่วงวันหยุด เพราะครอบครัวจะพากันจูงมือลูกหลานมาเที่ยว มาเล่นน้ำ ถือเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวแลนด์มาร์กบุรีรัมย์ที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 044 666 405 หรือ เฟซบุ๊ก หาดปราสาททอง)

10. สวนนก

ที่เที่ยวบุรีรัมย์

         ตั้งอยู่ตำบลสะแกซำ อยู่ในบริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด นักท่องเที่ยวจะได้พบเห็นฝูงนกชนิดต่าง ๆ กว่า 100 ชนิดที่บินมาอาศัย โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้งตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-เมษายน จะมีฝูงนกมาอาศัยอยู่มากเป็นพิเศษ บางชนิดใกล้สูญพันธุ์และหาดูได้ยาก เช่น นกเป็ดหงส์ นกเป็ดก่า และนกกาบบัว เป็นต้น ถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่ชื่นชอบธรรมชาติ ชอบที่จะดูนกเพลิน ๆ เคล้ากับบรรยากาศดี ๆ ที่นี่เหมาะสำหรับเป็นที่เที่ยวที่น่าสนใจมาก ๆ อีกที่หนึ่งค่ะ 

11. ถนนคนเดินเซราะกราว 


         ตั้งอยู่บริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นักท่องเที่ยวจะสนุกและเพลิดเพลินไปกับการเดินเลือกซื้อของและเลือกซื้อสินค้าพื้นบ้าน ของฝากที่ระลึก และชมการแสดงศิลปหัตถกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวจังหวัดบุรีรัมย์ นอกจากจะมีของให้เลือกซื้อมากมายแล้ว บรรยากาศของที่นี่ก็ชิลสุด ๆ เพราะตั้งอยู่ริมคลองละลม ใครที่เดินเที่ยวจนเมื่อยขา ก็แวะมานั่งชิล ๆ รับลมเย็น ๆ หรือจะนั่งรับประทานอาหารอร่อย ๆ ก็ได้ค่ะ เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 17.00-22.00 น. (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 044 602 345 หรือ เฟซบุ๊ก ถนนคนเดิน เซราะกราว วอล์คกิ้ง สตรีท)

12. บ้านสวนนอก 
         ตั้งอยู่ที่อำเภอห้วยราช เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่จะพาคุณไปสัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยววิถีชีวิตผลิตไหม ตั้งแต่การปลูกหม่อน, เก็บหม่อน, การเลี้ยงไหม, ชมและเรียนรู้การเลี้ยงไหม รวมถึงให้อาหารตัวไหม เรียกได้ว่าครบถ้วนถึงวงจรการผลิต รวมถึงเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ชุมชนที่น่าสนใจ กินอาหารอร่อยประจำท้องถิ่น และถ้าใครติดใจ ที่นี่ก็ยังมีที่พักโฮมสเตย์ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวอีกด้วยนะคะ (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ โทรศัพท์ 044 66 6528 หรือ เฟซบุ๊ก สนง.การท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดบุรีรัมย์)

         อื้อหือ…แต่ละที่เที่ยวบุรีรัมย์ที่เราเอามาให้ดูเป็นตัวอย่าง บอกเลยว่าน่าเที่ยวจริง ๆ ค่ะ เชื่อแล้วว่า ที่บุรีรัมย์เป็นจังหวัดที่รุ่มรวยด้วยเสน่ห์อย่างแท้จริง ทั้งที่เที่ยวเชิงวัฒนธรรม และที่เที่ยวสมัยใหม่ ให้เราได้เลือกเที่ยวตามแต่ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ใครว่าง ๆ อยากลองมาเที่ยวบุรีรัมย์ แวะมาเที่ยวได้เลยนะครับ ^ ^ (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ โทรศัพท์ 044 66 6528)

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
เฟซบุ๊ก หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ วัดระหาน(เกาะแก้วธุดงคสถาน) จ.บุรีรัมย์เว็บไซต์ buriramunited.comเว็บไซต์เฟซบุ๊ก Play La Ploenเฟซบุ๊ก ศูนย์วัฒนธรรมอีสานใต้จังหวัดบุรีรัมย์เฟซบุ๊ก หาดปราสาททองเฟซบุ๊ก ถนนคนเดิน เซราะกราว วอล์คกิ้ง สตรีทเฟซบุ๊ก สนง.การท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดบุรีรัมย์

วันเสาร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2562

7 ที่เที่ยวของบุรีรัมย์ที่ต้องไปให้ถึง


บทความนี้เป็นบทความที่นำมาจาก pantip จากผู้ใช้ชื่อ สมาชิค Dr pap เพื่อนำมาให้ผู้อ่านได้มาอ่านก่อนมาเที่ยวหรือศึกษาสถานที่ท้องเที่ยวเรามาเริ่มกันเลยครับ

บุรีรัมย์...เมืองแห่งปราสาทสองยุค
จากเมืองเล็กๆที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์หลายพันปี
ถูกพัฒนาเป็นเมืองแห่งการกีฬา เมืองแห่งปราสาทในยุคปัจจุบัน
แล้วคุณจะรู้ว่าเมืองเล็กๆแห่งนี้ น่าเที่ยวไม่แพ้ที่ใดในประเทศไทย
กับรีวิว บุรีรัมย์...กับ 7 ที่เที่ยว ที่ต้องไปให้ได้

1.สนามช้างอารีน่า
หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ ธันเดอร์ คาสเซิล สเตเดียม
สนามฟุตบอลที่สร้างจากการแนวคิดสถาปัตยกรรมกว่าพันปี ปราสาทหินพนมรุ้ง
จนปัจจุบันกลายเป็น ปราสาทสายฟ้า


สนามกีฬาที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
มีความจุ 24,000 ที่นั่ง มีความพิเศษ คือ เป็นสนามฟุตบอลที่ได้มาตรฐานแห่งแรก 
แห่งเดียวในประเทศไทยที่ไม่มีลู่วิ่งคั่นสนาม


บริเวณอาคารที่รอมสนามนี้ มีทั้งหมด 4 ชั้นมีทั้ง ห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยง ห้องพักนักกีฬา ร้านขายของที่ระลึก
ห้องแถลงข่าว ห้องอาบน้ำนักกีฬา ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้อย่างใกล้ชิด 
มีการจัดทัวร์เดินชมสนามทุกวัน ยกเว้นวันที่มีแข่งนัดเหย้า  ตั้งแต่ 10.00 – 16.00 น. เข้าชมได้ฟรีด้วยนะครับ


แนะนำว่าเวลามาเที่ยว ให้สวมชุดทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เข้าชม
เพราะจะได้บรรยากาศ เหมือนว่าเราเป็นนักเตะในทีมเลยทีเดียวครับ
สมกับคำว่า ... GU 12 ...


2.ปราสาทหินพนมรุ้ง
ปราสาทหินทรายสีชมพู ที่ถูกสร้างต่อเนื่องกันมานานหลายร้อยปี
เชื่อว่าเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ พุทธศตวรรษที่ 15 โดยกษัตริย์ของอาณาจักรเขมร
ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเทวาลัยที่ประทับของพระศิวะที่ประทับอยู่บนยอดเขาไกรลาส
ตามแนวคิดของศาสนาฮินดู


ตัวปราสาทตั้งอยู่บนยอดภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว สูงประมาณ 200 เมตรจากพื้นราบ 
ซึ่งคำว่า พนมรุ้ง นั้น มาจากภาษาเขมร แปลว่า ภูเขาใหญ่


นอกจากนี้ในช่วงปลายเดือนมีนาคมของทุกปี ทางจังหวัดจะมีการจัดงาน
ประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง เพื่อแสดงออกถึงเอกลักษณ์อันทรงคุณค่าของท้องถิ่น
และศิลปวัฒนธรรมที่ต้องอนุรักษ์และสืบสานสู่คนรุ่นหลัง


ไม่ไกลจาก ปราสาทหินพนมรุ้ง เป็นที่ตั้งของ ปราสาทหินเมืองต่ำ
อยู่ที่ อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 16-17 
มีลักษณะเป็นกลุ่มปราสาทอิฐ 5 องค์  โดยองค์กลางมีขนาดใหญ่กว่าปรางค์อื่นๆ
เหตุที่ชื่อว่าเมืองต่ำนั้น เพราะ ที่ตั้งปราสาท ไม่ได้ตั้งบนยอดเขาเหมือนปราสาทที่อื่นๆ


3.เพลาเพลิน
สวดดอกไม้ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์
ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนตามฤดูกาลและเทศกาลต่างๆ
ตั้งอยู่ที่ อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 50 กม.


อุทยานไม้ดอก แบ่งออกเป็น 6 โรงเรือน ได้แก่
- โรงเรือนที่ 1 จัดแสดงพรรณไม้ตามฤดูกาล ผลัดเปลี่ยมตามเทศกาล
เน้นดอกไม้จากต่างประเทศ เช่น ดอกทิวลิป ดอกลินลี่ ดอกไฮเดรนเยีย
- โรงเรือนที่ 2 จัดแสดงเฟิน ในบรรยากาศสัตว์โลกล้านปี
- โรงเรือนที่ 3 จัดแสดงสับปะรดสีและพืชกินแมลง ในบรรยากาศโลกแฟนตาซี


- โรงเรือนที่ 4 จัดแสดงกล้วยไม้ 
- โรงเรือนที่ 5 จัดแสดงพืชทะเลทราย ภายใต้คอนเซ็ปต์อียิปต์และมหาพีระมิด
- โรงเรือนที่ 6 จัดแสดงดอกหน้าวัว ในบรรยากาศบ้านเรือนไทย


และส่วนสุดท้ายเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านการเกษตร และปศุสัตว์ฟาร์ม
นอกจากนี้ยังมีโซนภาพวาดสามมิติ ทั้งยังสตูดิโอถ่ายภาพด้วย
การแสดงของสะสมโบราณต่าง ๆ เช่น นาฬิกา รถโบราณ
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ราคา 150 และเด็กราคา 80 บาท
เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. ของทุกวัน


4.บุรีรัมย์ คาสเซิล
คอมมูนิตี้มอลล์ที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดบุรีรัมย์
อยู่ด้านหลังของสนามไอโมบายสเตเดี้ยม ในคอนเซ็ปต์ กิน..เที่ยว..ที่เดียวจบ


โดย บุรีรัมย์ คาสเซิล แบ่งส่วน Community mall โดยจัดโซน ได้แก่
1. ร้านอาหาร ร้านกาแฟ มีทั้งอาหารสัญชาติไทย ฝรั่ง และญี่ปุ่น 
2. Shopping เสื้อผ้า แฟชั่น ของที่ระลึก motor sport Apprel 
3. Kidzone โรงเรียนพิเศษ Playgroud สำหรับเด็กๆ


4. Service  It ธนาคาร 
5. Food court ,ลานกิจกรรม สำหรับมีกิจกรรมกลุ่ม หรือ การแสดงต่างๆ
6. Night life wonderland   ...เดินครบก็คงจะเริ่มเหนื่อยแล้วละครับ


บุรีรัมย์ คาสเซิล ยังเป็นเหล่งแฮงค์เอาท์ของแฟนฟุตบอล ถือเป็นคลับของของชาว GU12 
ที่บุรีรัมย์ คาสเซิล ทุกๆร้าน ให้ส่วนลดพิเศษโดยไม่ต้องมีบัตร สำหรับผู้ใส่เสื้อที่มี โลโก้สโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด
จึงแนะนำใส่เสื้อมีตราสโมสรมานะครับ รับรองว่าได้ส่วนลดแน่นอน


5.พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 (วงเวียนช้าง)
สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 1 ผู้ทรงก่อตั้งเมืองบุรีรัมย์ 
โดยมีพงศาวดาร ระบุว่าเมื่อประมาณปีพ.ศ. 2319 รัชกาลที่ 1 เมื่อครั้งยังดำรงตำแหน่ง
เป็นสมเด็จเจ้าพระยาจักรีได้ยกกองทัพไป ปราบกบฏพระยานางรองเมื่อเสด็จฯ กลับได้
พบเมืองร้างชัยภูมิดี จึงให้รวบรวมผู้คนแล้วก่อตั้งเมือง


ในยามค่ำคืน วงเวียนดังกล่าวมีการประดับแสงไฟ สวยงาม
โดยประดับสีสันตามช่วงโอกาส และเทศกาลของจังหวัด


6.ปราสาทหินพนมรุ้งจำลอง
ปราสาทหินพนมรุ้งจำลองตั้งอยู่ที่ด้านหลังของ บุรีรัมย์ คาสเซิล
โดยตั้งอยู่บนเนินดินสูงคล้ายภูเขา การก่อสร้างใช้หินทรายสีชมพูลักษณะเดียวกับที่สร้างปราสาทหินพนมรุ้ง


การเเกะสลักหินทราย ถอดแบบการแกะสลักปราสาทหินพนมรุ้งอย่างสมบูรณ์
ทั้งทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ และลวดลายประกอบ


ปัจจุบัน ภายในใช้เป็นลักษณะ Hall of frame
คือมีการเก็บ และจัดแสดงถ้วยรางวัล ถ้วยเเชมป์ ( จำรอง ) ของการแข่งขันกีฬา ทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ซึ่งปราสาทพนมรุ้งจำรองนี้ กลายเป็นอีกหนึ่ง "แลนด์มาร์ก" ของมหานครกีฬาแห่งนี้เลยทีเดียว


7.บุรีรัมย์ อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต
บุรีรัมย์ อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต หรือที่นิยมเรียกว่า ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต 
เป็นสนามแข่งรถมาตรฐานสมาพันธ์รถยนต์นานาชาติ (FIA) ในประเทศไทย 
ตั้งอยู่ด้านหลังของนิวไอโมบายสเตเดียม


เป็นสนามแข่งรถที่ใหญ่ที่สุด และมีมาตราฐานโลกแห่งเดียวของประเทศไทย
มีการจัดการแข่งขันยานยนต์แทบทุกเดือน
แนะนำศึกษาตารางแข่งขันก่อนมาเที่ยวชมนะครับ เพราะ ถ้ามาวันที่มีการแข่งขันจะได้บรรยากาศมากๆ
แต่ถ้ามาวันที่ไม่มีการแข่งขัน ทางสนามก็เปิดให้เข้าชมได้ตามปกติ แต่จะเงียบไปซักหน่อยนะครับ


เล่าให้ฟังมาขนาดนี้ เริ่มอยากไปเที่ยวบุรีรัมย์แล้วใช่ไหมครับ
มาดูแผนที่ท่องเที่ยว ทั้ง 7 สถานที่นี้ละกันครับ




ติดตามรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ รีวิวพันทิป ชื่อ สมาชิค Dr pap
https://pantip.com/profile/857908


สงวนลิขสิทธิ์ภาพถ่าย...ติดต่อ พูดคุย ขออนุญาตการนำภาพไปใช้ ซื้อขายภาพ 
facebook: https://www.facebook.com/thapanun.mahisanun
และภาพสุดท้ายที่ สนามไอโมบายสเตเดี้ยม
ขอนำเสนอแต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณครับ

วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2562

ค่านิยมในเรื่องเพศ

                                                     

                                             ค่านิยมในเรื่องเพศ
ค่านิยม หมายถึง  ความรู้สึกนึกคิด  การให้คุณค่าหรือเชื่อถือที่มีต่อสิ่งหนึ่งค่านิยมทางเพศจึงเป็น
เรื่องของความรู้สึกการให้คุณค่า  ดังนั้น  วัยรุ่นจึงให้ความสนใจและทำความเข้าใจในเรื่องเพศ
และค่านิยมทางเพศ
1.เรื่องเพศเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์
นักเรียนจะเห็นได้ว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทุกคนตั้งแต่กำเนิด  ดังนั้นเรื่องเพศจึงไม่ใช่เรื่อง
นารังเกียจหรือเลวร้ายไม่สามารถนำมาสนทนาได้แต่เราควรกล่าวในทางสร้างสรรค์  หลีกเลี่ยงในการ
ปลุกเร้าอารมณ์ทางเพศหรือ  ในทางลามกอนาจาร
2.เพศชายและเพศหญิงและศักดิ์ศรีเท่าเทียมกันตามหลักสิทธิมนุษยชน
ในอดีตสงคมไทยให้ความสำคัญกับเพศชายมากกว่าเพศหญิง  เพราะบทบาทในการประกอบสัมมา
อาชีพเพื่อหารายได้มาเลี้ยงครอบครัวนั้นส่วนใหญ่เป็นของฝ่ายชาย  ฝ่ายหญิงมีหน้าที่ดูแลความ
เรียบร้อยของบ้าน  จัดเตรียมอาหาร  ดูแลบุตร  แต่ในปัจจุบันเพศหญิงมีโอกาสในการได้รับการศึกษา
การประกอบอาชีพและสถานภาพทางสังคมเท่าเทียมกับเพศชาย  ดังนั้น  เราจึงควรเคารพในสิทธิและ
ศักดิ์ศรีของตนเองเช่นเดียวกับการเคารพในสิทธิและศักดิ์ศรีของเพศตรงข้าม

 3.ค่านิยมทางเพศอาจแตกต่างกันไปตามสภาพสังคม  ประเพณี  และ  วัฒนธรรม
นักเรียนจะเห็นได้ว่าในแต่ละสังคมจะมีขนบธรรมเนียม  ประเพณี  ความเชื่อ  วิถีการดำเนินชีวิตและ 
องค์ประกอบอื่นๆ  ของสงคมที่แตกต่าง  เนื่องจาบุคคลในสังคมก็มีความแตกต่างกัน  รวมทั้งค่านิยม
ในเรื่องเพศค่านิยมบางอย่างอาจมีความเหมาะสมกับอีกสงคมหนึ่งอาจไม่เหมาะสมกับอีกสังคมหนึ่ง
ดังนั้นการจะรับค่านิยมทางสังคมและวัฒนธรรมอื่นมาใช้ต้องพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบ  
ว่าค่านิยมนั้นเหมาะสมและเป็นการยอมรับของสังคมไทยหรือไม่
4.ในสังคมเดียวกันอาจมีความเชื่อ  ค่านิยมทางเพศ  และการแสดงออกในเรื่องเพศที่
แตกต่างกัน
การที่คนเรามีความแตกต่างระหว่างบุคคล  รวมทั้งมีการอบรมจากครอบครัว  มีสภาพแวดล้อม
และประสบการณ์ทางเพศที่ต่างกัน  ทำให้บุคคลมีการแสดงออกทางเพศที่ต่างกัน  ดังนั้นนักเรียน
ควรใช้วิจารณญาณในการปฏิบัติตนตามแบบอย่างที่เหมาะสม
5.การแสดงออกของการกระตุ้นทางเพศของมนุษย์
แต่ทุกคนมีการตอบสนองต่อการกระตุ้นดังกล่าวให้เหมาะสมกับตน  เช่น  ในบุคคลที่ยังไม่สมรส
ก็ไม่ควรตอบสนอกการกระตุ้นโดยการมีเพศสัมพันธ์  เนื่องจากก่อให้เกิดผลกระทบตามมา  
เช่น  ตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ตามมา  การเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์  ซึ่งก็จะทำให้ตนเอง
และครอบครัวเกิดความเดือดร้อนและเป็นทุกข์  จึงควรหาทางออกที่จะไม่ก่อให้เกิดปัญหา   
เช่น  การเบี่ยงเบนความสนใจ   เช่น  การเล่นกีฬา
6.ปฏิบัติตนเกี่ยวกับเรื่องเพศและมีพฤติกรรมทางเพศทางเพศควรสอดคล้องกับจารีต
ประเพณีของสังคม
ในสังคมทุกสังคมจะมีข้อกำหนดหรือแนวทางปฏิบัติตนในเรื่องเพศตามธรรมนองครองธรรม   
เพื่อความดีงามและความสงบเรียบร้อยของสังคม  เช่น  ในสังคมไทยจะมีสำนวนโวหารที่แสดง
ถึงค่านิยมทางเพศที่ดีในสังคม  เช่น การรักนวลสงวนตัวเข้าตามตรอกออกตามประตู  เป็นต้น
7.ควรตระหนักว่าเรื่องเพศนั้นมีความเกี่ยวข้องกับชีวิต
และมีความหมายกว้างขวางเกี่ยวกับคนเราในหลายมิติ  ทั้งด้านเสรีวิทยา  สังคมวิทยา  จิตวิทยา  
และจริยธรรมเรื่องเพศมิได้หมายความว่าเฉพาะเรื่องระบบสืบพันธุ์และการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น
8.การมีพฤติกรรมทางเพศที่เหมาะสมกับวัยจะช่วยลดความเสี่ยงต่อปัญหาทางเพศ
การมีพฤติกรรมทางเพศที่เกินวัยจะก่อให้เกิดปัญหาและผลกระทบตามมาหลายประการ 
เช่น นักเรียนหญิงที่อยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียนควรหลีกเลี่ยงการแต่งกายที่รัดรูปหรือเปิดเผยจนเห็น
สัดส่วนอย่างชัดเจน เช่น การใส่เสื้อเอวลอย สวมกระโปรงหรือกางเกงเอวต่ำจนเกินไป การนุ่งสั้นหรือ
ใส่เสื้อเกาะอก เพราะการแต่งตัวเช่นนี้เป็นการยั่วยุอารมณ์และอาจก่อให้เกิดปัญหาทางเพศตามมา
ค่านิยมเรื่องเพศและวัฒนธรรมไทย
ประเทศไทยตั้งแต่ซีกโลกตะวันออก เป็นประเทศที่มีคำนบประเพณีธรรมเนียมและวัฒนธรรมอัน
เป็นเอกลักษณ์เฉพัวมาช้านานโดยเฉพาะค่านิยมเรื่องเพศ ซึ่งสามารถจำแนกได้สองมุมมอง ดังนี้
1.ค่านิยมทางเพศที่ถูกต้อง
-         การรักนวลสงวนตัว
-         การเข้าตามตรอก ออกตามประตู
-         การมีรักเดียวใจเดียว
-         การไม่ชิงสุกก่อนห่าม
-         ชายไทยต้องรับผิดชอบต่อครอบครัว
2.ค่านิยมทางเพศที่ไม่ถูกต้อง
   -  การพูดหรือสื่อสารในเรื่องเพศเป็นเรื่องหยาบคาย หรือ น่าอับอาย
   -  การไม่เผยแพร่ความจริงในเรื่องเพศ
   -  การยกย่องให้คุณค่าเพศชายเหนือกว่าเพศหญิง
   การใช้ถุงยางอนามัยถูกตีค่าในด้านลบว่าเป็นการไม่ไว้ใจกัน
ค่านิยมเรื่องเพศในสังคมตะวันตก
-         การนัดพบหรือการออกเดท [Dating]
-         การทดลองอยู่ด้วยกัน
-         การแสดงออกความรักใคร่อย่างเปิดเผย
พฤติกรรมทางเพศที่เหมาะสมกับวัฒนธรรมไทย
ในสังคมไทยปัจจุบันขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมยังคงเป็นตัวกำหนดวิถีชีวิต และมีบทบาท
ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ สำหรับสังคมไทยถือว่าความบริสุทธิ์ และการไม่มีเพศสัมพันธุ์ก่อนแต่งงาน 
เป็นสิ่งที่ดีงามตามวัฒนธรรมไทย ดังนั้นการวางตัวต่อเพศตรงข้าม ในระหว่างที่คบหาสมาคมกัน 
เป็นเรื่องสำคัญที่นักเรียนต้องให้ความสนใจ การวางตัวอย่างเหมาะสม เช่น
การแสดงพฤติกรรมของเพศหญิงนั้นจะต้องทำตัวให้เพศชายยกย่อง และให้เกียรติ โดยฝ่ายหญิงจะต้อง
เข้าใจว่า การที่ผู้หญิงกล้าเกินไป ไม่ถือเนื้อถือตัวและให้ความสนิทสนมกับผู้ชายมากๆ เท่ากับเป็นการ
เปิดโอกาศให้ผู้ชายสามารถล่วงเกินได้ง่ายขึ้น การวางตัวที่ดีและระมัดระวังตัวไม่ปล่อยให้สนิทสนมกับ
ใครๆ โดยง่ายขึ้น เป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งสำหรับกุลสตรี ซึ่งผู้ชายโดยทั่วไปมักจะให้ความยกย่องนับถือ 
หรือภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ถ้าเขาได้มีโอกาศแต่งงานกับผู้หญิงที่มีลักษณะนี้ ในทางเดียวกัน 
ผู้ชายที่ดีหรือมีความเป็นสุภาพบุรุษนั้น  จะต้องให้เกียรติและยกย่องสุภาพสตรี การวางตัวต่อเพศตรง
ข้าม ที่เหมาะสมต่อวัฒนธรรมไทยนั้น ควรปฏิบัติดังนี้
-         การปฏิบัติตนของผู้ชาย
ให้เน้นที่ความเป็นสุภาพบุรุษและความมีคุณธรรมประจำใจ คือ ไม่ล่วงเกินทางกาย ไม่พูดทะลึ่ง 
ไม่พูดจาหลอกลวงฝ่ายหญิง วางตัวให้เหมาะสมและเป็นที่หน้าไว้ใจของฝ่ายหญิง ชายเป็นเพศที่แข็ง
แรงกว่าควรปกป้องฝ่ายหญิงมากกว่าการไปทำร้ายร่างกาย และ ควรช่วยเหลือฝ่ายหญิงเท่าที่ตัวเองจะ
ทำได้ด้วย
-         การปฏิบัติตนของผู้หญิง
ให้เน้นที่ความเป็นสุภาพสตรีและรักนวลสงวนตัว มีความละอาย คือ ควรสงวนท่าที ไม่อยู่ในที่ลับตา
 ไม่ควรไปเที่ยงเตร่ตามลำพัง หรือกับเพศตรงข้าม ไม่ยินยอมให้ฝ่ายชายถูกเนื้อต้องตัว ในการวางตัว
ต่อฝ่ายชาย โดยที่ไปต้องนับถือความเป็นกุลสตรีของตัวเอง



ที่มาหนังสือสุขศึกษา ม.4 หน่วยการเรียนรู้ เพศกับวัฒนธรรมไทย